เต็มกำลังแล้ว การแข่งขันชิงชัยมวยสากลชิงแชมป์โลก 2021 ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย รอบชิงชนะเลิศ มีนักต่อยไทย

เต็มกำลังแล้ว ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ 1 รุ่นหมายคือรุ่นมินิมัมเวต 48 โล วุฒิชัยยุระชัยนักต่อยวัย 29 ปี พบกับ เตเมียร์ตัส ซุสซูปอฟ จากคาซัคสถาน ยกแรก ทั้งคู่ออกอาวุธและดูเชิงกันใกล้เคียง แม้ว่าหมดยก ผู้ตัดสินให้นักต่อยคาซัคสถาน ชนะไป 3-2 เสียง เวทีประเทศไทย

ไปสู่ยกลำดับที่สอง วุฒิชัยที่คะแนนด้อยกว่าเดินไปพบมากขึ้น แม้ว่านักต่อยคาซัคสถาน ยังดักได้ดี จบยก 2 ผู้ตัดสินให้นักต่อยคาซัคสถานชนะ 5-0 เสียง ยกตอนท้าย วุฒิชัยไม่มีทางเลือก จำเป็นจะต้องเดินเข้าหาอย่างเดียว

ในตอนที่นักต่อยคาซัคสถานชิงการได้เปรียบหาจังหวะดักต่อยอย่างระมัดระวัง แล้วก็ดักต่อยวุฒิชัยจนกระทั่งผู้ตัดสินนับ 8 แต่ยังสู้จนตราบเท่าหมดเวลา ครบ 3 ยก ผู้ตัดสินให้นักต่อยจากคาซัคสถาน ชนะวุฒิชัยไป 5-0 เสียง คะแนน 30-27, 30-27, 29-28, 30-27, 29-27

ทำให้ วุฒิชัยยุระชัยคว้าเหรียญเงินไปถือครอง แล้วก็เป็นนักมวยชายคนที่ 4 ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศสำเร็จ สรุปผลงานนักต่อยไทย

เต็มกำลังแล้ว

เต็มกำลังแล้ว เปิดเรื่องราว “ฤทธิ์เทวดา” จากมวยดาราจอตู้สู่การเป็นนักมวยระดับโลก

“ฤทธิ์เทวดาเพชรยินดีอะคาเดมี” อีกหนึ่งนักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทย กำลังจะได้เผยตัวเป็นครั้งแรกบนเวทีใหญ่ยอดเยี่ยมอย่าง วัน แชมเปียนชิพ ภายหลังที่รอคอยกันมานาน

โดยจะลงศึกปะทะมวยรุ่นพี่ “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ในฐานะคู่เอกของศึกวัน:เน็กซ์เจน2 ซึ่งจะกระจายเสียงเทปการประลองในวันศุกร์ที่ 12 เดือนพฤศจิกายน 2564 ก่อนจะ ฤทธิ์เทวดาจะได้โชว์ความรู้ความเข้าใจสู่สายตาแฟนกีฬาทั่วทั้งโลก

เราจะพาทุกคนย้อนไปไปดูทางชีวิตเท่าที่ผ่านมาซึ่งพร่ำสอนให้เขายอดเยี่ยมในดีเลิศความรู้ความเข้าใจแบบใหม่มาแรงที่อาจก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไปบนเวทียอดเยี่ยม โตในครอบครัวนักมวย

ฤทธิ์เทวดาหรือชื่อจริง “นายธนกฤษ สิทธิกุล” ชื่อเล่น “ปั่น” เป็นคน อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ กำเนิดวันที่ 15 มิถานายน 2539 เป็นลูกชายคนที่สองของบ้าน โดยมีพี่ชาย 1 คน และน้องชาย 1 คน

ป๊ะป๋าของ ฤทธิ์เทวดาเป็นร้อยตำรวจตรีนิพนธ์ สิทธิกุล ซึ่งมีอาชีพรับราชการตำรวจ แม้กระนั้นด้วยความที่เคยเป็นนักมวยเก่า เขาก็เลยสร้างค่ายฝึกมวยเล็ก ๆ ของครอบครัวในชื่อ “ค่ายซ้อมมวยสิทธิกุล” ข่าวมวย วันนี้

รวมถึงจับลูกชายทั้งยังสามคนฝึกมวยมาตั้งแต่เด็ก ในตอนนี้ ลูก ๆ ทั้งสามก็ยังสืบต่อความตั้งอกตั้งใจของพ่อในการเป็นนักสู้บนผืนผ้าใบ โดยพี่ชายคนโตเป็นรู้จักกันดีในชื่อ “เดชเทวดา สิทธิกุล” ส่วนน้องชายคนเล็กก็กำลังดำเนินรอยตามพี่ ๆ โดยมีนามสมมุติว่า “หนังสือเทพดา สิทธิกุล”

จากอีสานสู่เมืองหลวง ครั้งหน้า ฤทธิ์เทวดามีผู้เข้ามาช่วยเหลือโดยแปลงชื่อเป็น “ฤทธิ์เทวดาส.นิภาพร” เขาสั่งสมชื่อเสียงและกระดูกมวยด้วยการเดินสายต่อยไปทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนกระทั่งแทบจะหาคู่เปรียบมวยไม่ได้

โดยสามารถปัดกวาดสายรัดเอวแชมป์มวยไทยภาคอีสานมาครองถึง 5 รุ่น และแชมป์มวยภาคอีสานอีก 2 รุ่น ด้วยความรู้ความเข้าใจอันเด่นที่มีอีกทั้งอาวุธครบบริบรูณ์และความฉลาดทางสติปัญญามวยดี ทำให้ ฤทธิ์เทวดาเป็นที่เรียกร้องตัวจากโปรโมเตอร์ดัง จนกระทั่งท้ายที่สุดเขาก็ได้จังหวะเข้ามาโชว์ความรู้ความเข้าใจในเมืองหลวงซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกที่ทำให้เขาดังเป็นพลุแตก

เต็มกำลังแล้ว

แจ้งเป็นผลมาจากมวยจอตู้

เมื่อไปสู่เมืองหลวง ฤทธิ์เทวดาแจ้งกำเนิดอย่างเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ไฟต์เปิดตัวบนสนามแข่งมวยหลากสีด้วยการชนะมวยรุ่นพี่อย่าง “รุ่งเกียรติ ซากามิ” ในวัยเพียงแต่ 17 ปี ในปีเดียวกัน เขาก็สามารถคว้าแชมป์มวยไทยช่องเจ็ดสี รุ่น 140 ปอนด์ รวมทั้งรางวัลคู่มวยดุเดือดที่ปีช่อง 7 สี ปี 2557

แล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นขวัญใจคอหมัดมวยจอตู้นับจากนั้นเป็นต้นมา แล้วต่อจากนั้น ฤทธิ์เทวดาก็เดินหน้าปัดกวาดเข็มขัดแชมป์จากหลายเวที เช่น แชมป์ห้องประชุมมวยไทยโลก (ดับเบิ้ลยูเอ็มซี) รุ่น 140 ปอนด์ แล้วก็แชมป์เวทีลุมพินี รุ่น 140 ปอนด์

จนกว่ามีชื่อเลื่องลือในฐานะมวยยอดความรู้ความเข้าใจที่หาตัวจับยากคนหนึ่งของไทย ทิ้งค่าตอบแทนเรือนแสนตามความฝัน จากนักต่อยภูธร ฤทธิ์เทวดาแปลงเป็นนักมวยยอดความรู้ความเข้าใจค่าจ้างเรือนแสนที่มีเพียงแต่ค่ายดังต้องการตัว

ถึงแม้เขากลับตกลงปลงใจทิ้งความเลื่องชื่อทรัพย์สินเพื่อกระทำตามความฝันสำหรับการเป็นนักมวยสากลกรุ๊ปชาติไทย ฤทธิ์เทวดาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่ามีธงชาติไทยติดอยู่ที่อกเสื้อ ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายมาชกมวยสากลโดยลงแข่งขันหนแรกในศึก “ไทยแลนด์โอเพ่น ระหว่างประเทศ บ๊อกซิ่ง ทัวร์นาเมนต์ 2019 ครั้งที่ 2”

ในปี 2562 และจากนั้นก็ครองแชมป์อย่างงดงาม แต่ด้วยประสบการณ์การชกมวยที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับนักต่อยคนอื่นในกรุ๊ปทำให้ ฤทธิ์เทวดามีโปรแกรมการต่อยน้อย ประกอบกับรายได้ไม่พอกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบค่ายังชีพ

เขาก็เลยตกลงปลงใจล่ำลากรุ๊ปชาติไทย กลับมาชกมวยไทยอีกครั้งตอนหลังรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี ซบค่ายใหม่พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ความรู้ความเข้าใจของ ฤทธิ์เทวดาไปเข้าตาของค่ายใหญ่หลายค่ายซึ่งอุตสาหะทาบทามเขาเข้าขึ้นกับ แม้กระนั้นเขาก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับค่ายใด

จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ฤทธิ์เทวดาตกลงปลงใจไปซบอกค่าย “เพชรยินดีอะคาเดมี” โดยบอกเหตุผลว่าเขาประสงค์ความก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งค่ายเพชรยินดีฯ ก็เป็นค่ายมาตรฐานที่ส่งนักต่อยไปโชว์ผลงานบนเวทีระดับประเทศอย่างวัน มาแล้วคนจำนวนไม่น้อย

ฤทธิ์เทวดาก็เลยหวังว่าเขาจะยอมรับได้จังหวะในการก้าวขึ้นเป็นนักมวยยอดเยี่ยมด้วยเหมือนกัน และจากนั้นก็ตอนนี้ โอกาสทองก็ตกมาถึงมือเมื่อ ฤทธิ์เทวดากำลังจะได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกบนเวทีวัน

นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นหนทางสำคัญที่เขาอาจแย่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งของแรงกิงวัน มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต มาถือครองแทน เสมาเพชร ผู้รั้งตำแหน่งคนในขณะนี้ ซึ่งแปลว่าเขาก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงรายต่อไปของแชมป์โลกฆ่าไม่ตายอย่าง “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ทันที

https://www.zgreseniprimeri.com/