รากลึกที่เน่าเฟะ กีฬามวยสากลในโอลิมปิก 2020 มีความเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น เมื่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี

รากลึกที่เน่าเฟะ กีฬามวยสากลในโอลิมปิก 2020 มีความเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น เมื่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ตกลงใจลงมาเป็นผู้จัดการแข่ง แทนที่ของ สมาพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบ้า

เนื่องมาจากปัญหาเกี่ยวกับความโล่งใส ของการจัดการหน่วยงาน และก็การติดสิน หัวข้อนี้ ชาวโลกยังคงเฝ้าดูว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ของโอลิมปิก จะก่อให้ปัญหาความชอบธรรม ถูกกำจัดหายไปได้ใช่หรือไม่

ทำไมหน่วยงานอย่างไอบ้า แล้วก็ค่อยๆ หมดความเป็นธรรม แล้วก็เพราะเหตุใดโอลิมปิก ก็เลยจำต้องเข้ามามีหน้าที่ในครั้งนี้ กีฬาเริ่มแรกแต่ว่าเสี่ยงหลุดโอลิมปิก มวยสากล นับเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก

มาตั้งแต่ปี 1904 ที่เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะหลุดจากการประลองโอลิมปิก 1912 ที่สตอคโฮล์ม แต่ทว่าตั้งแต่ปี 1920 มวยสากล เป็นประเภทกีฬาที่ได้รับการบรรจุในโอลิมปิกมาตลอด จนกระทั่งโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์”

ในอดีตกาล มวยสากล นับเป็นกีฬาประเภทแรก ที่นักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครอบครองจาก พเยาว์ พูนธรัตน์ ในโอลิมปิก 1976 ที่มอนทรีออล หลังจากนั้นมวยสากล ก็เป็นประเภทกีฬาที่นักกีฬาไทย

สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลโดยตลอด แต่ว่าสิ่งที่เป็นปัญหาที่มีความสำคัญ ที่ทำให้กีฬาชกมวยสากล ถูกตั้งปัญหาจากชาวโลกก็คือ การวินิจฉัยที่ไม่ยุติธรรมมาหลายทศวรรษ เนื่องจากว่าไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่ามวยสากล

เป็นกีฬาที่วินิจฉัยจากสายตา ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของการแข่งขันชิงชัยมวยโอลิมปิก ถูกลดทอนลงไปทุกปีๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการวินิจฉัยตั้งรกรากลึก ต้นเหตุของสมาพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือไอบ้า เกิดขึ้นในโอลิมปิก 1920 ที่เบลเยี่ยม

ผู้แทนจาก 5 ชาติหมายถึงอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, บราซิล และก็เนเธอร์แลนด์ ได้ด้วยกันจัดตั้งขึ้นสมาพันธ์มวยสากลสมัครเล่น หรือฟิบา เป้าประสงค์สำคัญเป็นเพื่อร่วมระบุแนวทางการจัดการแข่งระดับประเทศ

รวมทั้งให้โอกาสให้นักมวยสมัครเน ได้โอกาสสร้างผลงานระดับนานาชาติ ราวกับจะเดินหน้าด้วยดี แม้กระนั้นจุดแปลงสำคัญก็มาถึงในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อความประพฤติปฏิบัติของผู้บริหารสมาพันธ์เล็กน้อย มวยไทย7สี

ไปมีหน้าที่ด้านการเมือง จนถึงทำให้สูญเสียความน่านับถือสำหรับเพื่อการจัดแจงชิงชัย ประกอบกับข้อคิดเห็นที่แตกออกเป็นหลายข้าง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ฟิบาก็เลยถูกยุบลงในปี 1948 แล้วก็ต่อจากนั้นชมรมมวยสากลสมัครเล่นของอังกฤษ และก็ฝรั่งเศส

รากลึกที่เน่าเฟะ

จากปัญหาเกี่ยวกับความโล่งใสของการจัดการหน่วยงาน และก็การติดสิน

รากลึกที่เน่าเฟะ ตกลงใจจัดตั้งขึ้นสมาพันธ์ใหม่ขึ้นมาหมายถึงไอบ้า และก็ได้รับความเชื่อถือให้ปฏิบัติงานในโอลิมปิก การประลองมวยสากลในโอลิมปิก ยังคงเป็นไปด้วยดีและไม่มีปัญหาการวินิจฉัยที่ถูกเอ๋ยถึงเป็นวงกว้าง

บางทีอาจเนื่องจากการเข้าถึงสื่อในสมัยก่อนที่จะยังไม่กว้างใหญ่นัก ทำให้เรื่องการวินิจฉัยยังผิดตั้งปัญหาจากผู้ชม แม้กระนั้นถ้าพินิจพิเคราะห์จากรายงานแล้ว พบว่า การวินิจฉัยที่คัดค้านสายตา เกิดขึ้นในกีฬาโอลิมปิกเกือบทุกครั้ง

ดังเช่นว่า ปี 1960 มีแถลงการณ์ว่าผู้ตัดสินถูกปลดจากกระบวนการทำหน้าที่คนไม่ใช่น้อย เนื่องด้วยปฏิบัติภารกิจแย้งสายตา ในเวลาที่โอลิมปิก 1964 โช ดองกี นักมวยเกาหลีใต้ ถูกผู้ตัดสินปรับแพ้สตานิสลาฟ โซโรคิน จากรัสเซีย

เพราะต่อยแบบก้มต่ำเหลือเกินข้างหลังเวลาผ่านไปเพียงแค่ 1 นาที กับ 6 วินาทีในยกแรก ทำให้เขาตกลงใจต่อต้านไม่ลงจากเวทีนานถึง 51 นาทีร่วมกัน รอย โจนส์ จูเนียร์ กับ ความแพ้พ่ายที่กระเพื่อมสู่ชาวโลก

จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญมาถึงในปี 1986 เมื่ออัลวา ชอร์ดรี้ ชาวปากีสถาน ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานไอบ้า การวินิจฉัยที่ท้วงสายตาทวีความร้ายแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฟต์ระหว่าง พัค ซีฮอน นักต่อยเกาหลีใต้ ผู้จัดงาน กับ รอย โจนส์ จูเนียร์ ที่สายตาของชาวโลก

เห็นว่า ไม่ว่ายังไง รอย โจนส์ จูเนียร์ ก็ค้าเหรียญทองมาครอบครองได้แน่ แต่ว่าท้ายที่สุด เปลี่ยนไปเป็นว่า กรรมการกลับให้ พัค เป็นข้างชนะไป 3-2 เสียง จำพวกช็อกโลก ซึ่งข้างหลังต่อย ผู้ตัดสินจากโมร็อกโกที่เป็นเยี่ยมในสามเสียงที่ให้พัคชนะ

ให้สัมภาษณ์กับ ซีเอ็นเอ็น ว่าเขารู้สึกว่า รอย โจนส์ คงจะชนะกล้วยๆรวมทั้งผู้ตัดสินอีก 4 คน อาจให้ชนะหมดอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เลยอยากที่จะให้คะแนนออกมามองใกล้เคียง โดยไม่คิดว่าจะมีผู้ตัดสินอีก 2 คน ที่ให้พัค ชนะด้วย

สถานะการณ์นี้ ทำให้ ชอร์ดรี้ ตกลงใจรื้อระบบการวินิจฉัยมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิก จากระบบผู้ตัดสินให้แต้ม มาเป็นระบบนับหมัด เขาใช้เวลา 2 ปสำหรับในการศึกษาค้นคว้าระบบ จนถึงถูกประยุกต์ใช้ในโอลิมปิก 1992 ที่บาร์เซโลนา

ระบบนับหมัดที่ (เหมือน) จะยุติธรรม แรกๆระบบนับหมัดก็เสมือนจะมีผลให้การวินิจฉัยมองชอบธรรม เพราะเหตุว่าผู้ชมจะได้มองเห็นในทุกๆตอนที่คะแนนขึ้นจากการต่อยหมัดเข้าไป แม้กระนั้นเมื่อนานไป ก็กลับสู่วงจรเดิมหมายถึงการวินิจฉัยที่แย้งสายตา ประจานให้โลกรู้