ควงสว่านในพริบตา ดาเตะ เอจิ ที่ ก้าวแรกสู่สังเวียน, มาเอดะ ไทซน ที่ จอมเกบลูส์

ควงสว่านในพริบตา รวมทั้งนักมวยในโลกการ์ตูนอีกหลายนักแสดงล้วนมีท่าไม้ตายที่เรียกกันว่า “หมัดสกรูว์” ซึ่งว่ากันด้วยความแรงในระดับที่คดโกงกันชัดๆซัดกันทีหน้าสั่นกระจาย หลับกลางอากาศ ตัวหมุนติ้วๆสมกับเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยจินตนาการ

ควงสว่านในพริบตา

มวยอาชีพเกิดมานานเกิน 100 ปีแล้ว โดยยิ่งไปกว่านั้นที่อเมริกานั้น เป็นอะไรที่ฮอตได้รับความนิยมมากมายแบบสุดๆในตอนปี 1910 มีโคตรมวยอย่าง แจ็ค จอห์นสัน รวมทั้ง แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ซึ่งนับว่าเป็น 2 นักต่อยที่เป็นนักมวยดังมากมายๆไม่แพ้ศิลปินอย่างยิ่งจริงๆ

การมีอยู่ของกีฬาชกมวย เริ่มเปลี่ยนเป็นกีฬายอดนิยมสูงสุด ผู้ชมมากมายก่ายกอง รวมทั้งโน่นกระตุ้นให้เกิดนักมวยรุ่นลูกๆตามมา ซึ่งแน่ๆว่าเมื่อมีนักมวยฝีมือเยี่ยมหลายคนหลั่งไหลเข้ามา การแข่งขันชิงชัยก็เข้มข้นขึ้น เมื่อนั้น การต่อยกันก็เลยจำต้องประสมประสานวิธีอะไรหลายๆอย่างเข้าไปเพื่อเพิ่มข้อดี กำจัดข้อเสีย แล้วก็สร้างความต่างให้เป็นต่อนักต่อยผู้อื่น มวยไทย7สี

แต่เดิมอาวุธเด็ดในแวดวงมวยสากลสำคัญๆจะยืนพื้นกันที่หมัดตรงหรือหมัดฮุกเพียงแค่นั้น โดยยิ่งไปกว่านั้นหมัดนั่นทรงอำนาจที่สุด เนื่องจากว่าง่ายต่อการต่อยให้ตรงเป้า แล้วก็ยังมีความหนักหน่วงในขณะเดียวกันด้วย

แม้กระนั้น ทุกจุดเด่นล้วนมีจุดอ่อนแอบซ่อนอยู่ รวมทั้งข้อด้อยของหมัดตรงเป็น ใช้ช่วงเวลาสำหรับการอ้าหมัดนานเกินความจำเป็น บางคราวการอ้าจะต่อยคู่ต่อย ถ้าเกิดทำเป็นไม่เร็วเพียงพอ ก็บางครั้งอาจจะเป็นการเปิดการ์ดและก็สร้างช่องทางให้คู่ต่อยสวนกลับกระทั่งเป็นข้างหล่นเสียเองอีกต่างหาก

ควงสว่านในพริบตา ฉะนั้น หมัดสกรูว์ก็เลยเกิดขึ้นเพื่อลบข้อบกพร่องนี้ โดยตามประวัติศาสตร์ว่าไว้ มันมีต้นเหตุจากนักมวยที่ชื่อว่า นอร์แมน เซลบี้ หรือชื่อในแวดวงที่รู้จักกันเป็น “คิด แม็คคอย” นักต่อยเชื้อสายไอริช ผู้หนีออกมาจากบ้านมาเป็นนักมวยตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากช่วงที่มวยสากลเจริญก้าวหน้าในตอนนั้น

เว้นเสียแต่เรื่องเกี่ยวกับการลดช่วงเวลาเงื้อหมัดตรงแล้ว มูลเหตุที่ แม็คคอย คิดท่าไม้เด็ดหมัดสกรูว์ขึ้นมาได้ ด้วยเหตุว่าแวดวงมวยสากลในสมัยนั้นมิได้ใส่นวมที่ขนาดใหญ่แล้วก็ดกขนาดนี้ นวมสมัยนั้นมีความบาง แถมยังมีผ้าพันหมัดไว้อีก 1 ชั้น รวมทั้งเขาจะใช้ความบางของนวมนั้นให้มีประโยชน์

ควงสว่านในพริบตา

หมัดสกรูว์ (Corkscrew) มีชื่อมาจากที่เปิดจุดคอร์กของขวดเหล้าองุ่น (มีลักษณะเป็นเกลียวใช้เจาะเข้าไปในฝาไม้คอร์กรวมทั้งดึงออกมา) คุณลักษณะเด่นเป็นหมัดตรงที่ไม่ต้องเงื้อ (ดึงไหล่ไปข้างหลัง) เสียเวล่ำเวลาน้อยกว่าหมัดตรง ทำให้ปลดปล่อยหมัดได้เร็วกว่าราวครึ่งจังหวะ ป้องแชมป์สวย

แนวทางการต่อยหมัดสกรูว์ของ นั้นจะใช้การตั้งท่าอย่างกับตั้งการ์ดมวยธรรมดา แต่ว่าเมื่อเขาปลดปล่อยหมัดออกไป เขาจะต่อยออกตรงๆและก็ใช้การบิดข้อมือเพื่อเปลี่ยนทิศทางของหมัดในเสี้ยววินาที รวมทั้งการบิดข้อมือนั้นเอง ทำให้สามารถเพิ่มความแรงของน้ำหนักหมัดได้

ควงสว่านในพริบตา หากยังมองไม่เห็นภาพ อยากให้ลองนึกดูภาพของแมวที่กำลังเงื้ออุ้งเล็บเพื่อข่วนอะไรสักอย่างนั่นแหละ โน่นเป็นแนวทางเดียวกันกับหมัดสกรูว์.. ซึ่งจุดนี้ เห็นด้วยว่า เขาได้แรงจูงใจจากการที่กำลังนอนพักในโรงนา จากนั้นเขามองเห็นแมวกำลังเล่นกับบอล โดยใช้การยกขาหน้าขึ้นเล็กน้อยรวมทั้งข่วนบอลแบบเปลี่ยนทิศทางด้วยความเร็ว เขาก็เลยเริ่มเอาอย่างแล้วก็ฝึกฝนมันจนกระทั่งช่ำชอง

แม็คคอย เอาอย่างจากแมว แต่ว่าไม่ใช่แค่การเลียนแบบท่าของแมวสิ่งเดียวแค่นั้น เขาเคยเผยกับสื่อว่า การจะต่อยหมัดสกรูว์ได้เร็วและก็แรงนั้น จำต้องฝึกหัดกล้ามแขนอย่างมากถ่วงมากมาย เพื่อตอบแทนการต่อยที่ไม่มีระยะเงื้อหมัดดังการต่อยหมัดตรง

ถ้าฝึกหัดกล้ามหนักแน่นกระทั่งทำเป็นเร็วแล้วก็แรงพอแล้ว การปลดปล่อยหมัดสกรูว์มีคุณภาพมากมาย มันจะไวจนกระทั่งคู่ต่อยจับจังหวะไม่ทัน เนื่องจากโดยธรรมดาแล้วนักมวยจำนวนมากจะมองดูที่ไหล่ของคู่ต่อยเพื่ออ่านเหตุการณ์เป็นหลัก

ควงสว่านในพริบตา ถ้าเกิดเมื่อไรไหล่ถูกดึงไปข้างหลังก็เพียงพอจะสันนิษฐานได้ว่ากำลังจะต่อยหมัดตรง ซึ่งหมัดสกรูว์สามารถข้ามขั้นในเวลานั้นไปได้ เนื่องจากจะใช้การบิดของหัวไหล่รวมทั้งข้อมือแทนการอ้าแบบหมัดตรงธรรมดา

บทความเกี่ยวกับหมัดสกรูว์ของ ที่ลงในเว็บ Marin Fire History ชี้แจงว่าในสมัยที่นวมบางนั้น การใช้หมัดสกรูว์จะมีคุณภาพมากมาย หากทำเป็นเร็วแล้วก็แรงแล้ว

การบิดข้อมือด้วยความเร็วเพียงแค่พริบตา จะก่อให้หมัดมีความแหลมคมจนถึงสามารถสร้างแผลฉีกหรือแตกให้คู่ต่อยได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย วิธีการชนคู่ปรปักษ์ของหมัดสกรูว์ไม่ได้แตกต่างจากลูกกระสุนปืน เมื่อบิดข้อมือเร็ว หมัดก็จะควงสว่านราววิถีของกระสุนปืนนั่นเอง

ภายหลังที่ แม็คคอย ใช้งานหมัดสกรูว์ตลอดกว่า 100 ไฟต์ในอาชีพของเขา กรรมวิธีต่อยแบบนี้ก็แพร่หลายจนกระทั่งนักมวยรุ่นลูกๆเอาไปใช้งานอีกหลายคน เหตุผลเนื่องจากมันเกิดเรื่องการได้เปรียบ

ที่ไม่ใช่แค่ความเร็วรวมทั้งแรงแค่นั้น แม้กระนั้นหมัดสกรูว์ยังช่วยเซฟข้อมือได้ดียิ่งไปกว่าการต่อยหมัดตรง ยิ่งไปกว่านี้การชักหมัดสกรูว์ที่จะต้องบิดไหล่นั้น จะมีผลให้ไหล่มาปิดคางอัตโนมัติ ช่วยทำให้การปกป้องคุ้มครองดียิ่งขึ้นด้วย

โดยนักมวยที่เคยใช้หมัดนี้เป็นประจำอย่างเช่น เขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกคนไทยที่ใช้หมัดสกรูว์สำหรับในการสวนคู่ต่อยอยู่เป็นประจำและก็ที่เห็นกระจ่างที่สุดเป็น แมนนี่ ขว้างเกียว ในไฟต์ที่ต่อยกับ มิเกล ค็อตโต้ ที่เป็นมวยสายไฟเตอร์ร่วมกันทั้งสอง

ตัวของปาเกียวนั้นใช้หมัดสกรูว์เล่นงานค็อตโต้ได้ด้วยการดักจังหวะที่ ค็อตโต้ ปลดปล่อยหมัดตรง ตอนที่ปาเกียวสวนกลับ (เคาน์เตอร์) ด้วยหมัดสกรูว์ที่ใช้ระยะในการปลดปล่อยหมัดสั้นกว่าตรงเป้าไปหลายดอกอย่างยิ่งจริงๆ ก่อนจะเป็นผู้ชนะในไฟต์นั้นไปในในที่สุด

สิ่งใดก็ตามที่ยิ่งใหญ่และก็ประสบความสำเร็จบนโลกที่ความจริงนั้น ชอบถูกประยุกต์ใช้เป็นแรงดลใจในการแต่งนิยายหรือการ์ตูนมากมายเรื่องแล้วก็นานัปการท่าไม้เด็ด.. หมัดสกรูว์ ก็เหมือนกัน

ซึ่งในเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน หรือ Hajime no Ippo หมัดสกรูว์ เป็นหมัดที่ ดาเตะ เอจิ (Date Eiji) ใช้โจมตีพระเอกของเรื่องอย่าง อิปโป้ เข้าที่อกข้างซ้ายแบบเต็มๆ

ควงสว่านในพริบตา โดยลักษณะการต่อยของ ดาเตะ นั้นเกิดขึ้นตามตำราที่ แม็คคอย บอกเป๊ะ โน่นเป็นไม่ใช้การเงื้อง่าราคาแพง แต่ว่าใช้การบิดของร่างกายตั้งแต่ข้อเท้า หัวเข่า เอว ไหล่ รวมทั้งข้อมือในเวลาเดียวกัน เปรี้ยงเดียวเพียงแค่นั้น อิปโป้ ก็ลุกไม่ขึ้นกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ แล้วก็ในเรื่องมีการเรียกหมัดนั้นว่า “หมัดควงสว่าน” ตรงตามตำราว่าไว้อีกด้วย

นอกจากนี้ในเรื่อง จอมเกบลูส์ (Blues) การ์ตูนอันธพาลที่สมัย 90s ก็เป็นอีกประเด็นที่ถือหมัดสกรูว์มาใช้เป็นท่าไม้ตายของพระเอกอย่าง มาเอดะ ไทซน ที่ฝึกกับเครื่องต่อยแบบหยอดเหรียญ

โดยเทคนิคที่ ไทซน ใช้เป็นการบิดไหล่เช่นกัน ซึ่งสุดท้ายหมัดสกรูว์ของเขาก็สามารถใช้งานด้วยการต่อย 1 ในจตุรเทวดาอย่าง ยาปะทุชิจิ จนถึงกระเด็นตกลงไปในแม่น้ำ และก็เป็น 1 ในช็อตคลาสสิกของเรื่อง จอมเกบลูส์ อย่างยิ่งจริงๆ

ในแต่ละฉากที่เหล่าผู้แสดงในมังงะใช้หมัดสกรูว์นั้น จะเห็นภาพและก็กระบวนการของหมัดนี้ได้เด่นชัดมากมาย เนื่องจากว่าจิตรกรชอบใส่เอฟเฟกต์ให้มองเห็นไปเลยว่า หมัดเดินทางคล้ายกับควงสว่านด้วยความเร็ว

โดยเฉพาะยิ่งเมื่อโดนแบบจังๆเอฟเฟ็กต์ของคนโดนก็แสดงออกตามวิถีหมัด โน่นเป็นกระเด็นในอากาศ ลอยหมุนติ้วอย่างกับโดนพายุหมุนก็ไม่ปาน.. แม้ว่าจะดูเว่อร์ไปหน่อย แต่ว่าขั้นต่ำๆมันเป็นการการันตีด้วยภาพแล้วก็สร้างความชัดเจนได้ดิบได้ดีทีเดียว ด้วยเหตุว่าในกีฬามวยจริง การใช้หมัดสกรูว์มักเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีกระทั่งมองดูด้วยตาเปล่าไม่ทันนั่นเอง

จะมองเห็นได้ว่าต้นกำเนิดหมัดในตำนานจากแมวเพียงแค่ตัวเดียว ถูกเอามาต่อยอดจนแปลงเป็นหนึ่งในอาวุธหลักของนักมวยสากลทุกยุคทุกสมัย ถึงแม้ยุคนี้นวมจะครึ้มขึ้น หรือแม้กระทั่งแทบจะไม่มีการต่อยด้วยหมัดไม่หรือเอาผ้าผูกมืออีกแล้ว แต่ขั้นต่ำๆจุดเด่นของหมัดสกรูว์ยังคงไม่มีอะไรมาทำลายได้ง่ายๆเร็ว แรง แล้วก็ยังช่วยป้องกันในเวลาเดียวกัน ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้หมัดสกรูว์เป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้